หน้าเว็บ

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กิฟฟารีน giffarine สมัครกิฟฟารีน รายได้เสริม ธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ ...


ธุรกิจเสริม อาชีพเสริม รายได้เสริม ปรับโฉมการตลาดยุคใหม่ด้วยสื่อ Online และ E-Marketing เพียงใช้ความรู้พื้นฐานด้าน IT คุณจะสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน ง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้วคลิก ทุกอย่างไม่ยากอย่างที่คิด......
Giffarine คือ นวัตกรรมทางธุรกิจที่เข้าใจวิถีชีวิตและแนวคิดของคนไทย กิฟฟารีนตระหนักว่ามีคนไทยจำนวนมากที่ไม่ถนัดงานขายและลำบากใจในการชักชวนคน เราจึงมีแนวคิดที่จะเชิญคนไทยมาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ด้วยการซื้อสินค้าใช้ในชีวิตประจำวันจากบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของสินค้าและเป็นหุ้นส่วน ซึ่งจะได้รับเงินปันผลตอบแทนกลับคืนมาเป็นจำนวนสูงสุดประมาณ 45-50% โดยเงินปันผลนี้จะเพิ่มมากชึ้นจากการสร้างเครือข่ายผู้บริโภคสินค้าอย่างต่อเนื่องและสม่ำ ภายใต้การดูแลของ Giffarine แถมประกันอุบัติเหตุสูงสุด 1,320,000 บาท โดยผู้ที่สนใจสินค้า หรือการทำเป็นธุรกิจเสริม สามารถสมัครสมัครสมาชิกกับคุณ และสามารถนำบัตรสมาชิกไปใช้บริการได้ตามศูนย์บริการกิฟฟารีนกว่า 1oo ศูนย์ทั่วประเทศ 70 กว่าจังหวัด สินค้ากว่า 2,000 รายการ ที่คอยให้บริการแก่สมาชิกทุกท่าน โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อและหิ้วของไปขาย เพราะรายได้เกิดจากสมาชิกของคุณเดินเข้าไปใช้บริการได้เองตามศูนย์ต่างๆทั่วประเทศ....


สวัสดีค่ะทุกท่านที่แวะเข้าเยี่ยมชม เว็บไซต์อัพ-ทูยู (up-toyou.net) ของเรา สำหรับท่านที่สนใจและกำลังมองหาธุรกิจเสริม อาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ หรือท่านที่มีความสนใจอยากจะเปลี่ยนหรือทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของกิฟฟารีน(giffarine) ดูบ้าง ในวันนี้เราอยากร่วมแบ่งปันประสบการณ์และเล่าเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับรายได้เสริมที่มาจากกิฟฟารีน(giffarine) เผื่่อว่าอาจจะเป็นอีกช่องทางสร้างรายได้ ที่ท่านสามารถเลือกทำเป็นธุรกิจเสริม อาชีพเสริม อย่างจริงจังได้นะคะ วันนี้ เรากล้าพูดได้ว่า เรามีรายได้จากกิฟฟารีน(giffarine) ทุกเดือน เพราะเราคือ........

1. ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของกิฟฟารีน(giffaine)

2. ผู้สร้างเครือข่ายผู้ใช้ผลิตภัณฑ์

3. ผู้สร้างเครือข่ายผู้ต้องการทำธุรกิจ




วันนี้เรามีรายได้จากการทำกิฟฟารีน(giffarine) เป็นตัวเลข 5 หลัก ในระยะเวลาไม่ถึงปีเราเริ่มต้นจากการที่ตัวเราซื้อสินค้าใช้เอง :รายได้จะเกิดขึ้นเมื่อมีการซื้อสินค้า ถ้าตัวเรายังไม่ซื้อสินค้าใช้ เราก็จะไม่แนะนำคนอื่นให้ใช้สินค้า เพราะเราจะยังไม่รู้หรอกว่าสินค้าเราดีอย่างไร?

เราคือทีมกิฟฟารีนที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง เรานำธุรกิจโดยใช้ความรู้เป็นตัวขับเคลื่อน เราใช้เทคโนโลยีผนวกกับหลักการบริหารจัดการที่ดี เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เรามั่นใจว่าเรามีความพร้อมในทุกด้าน

เมื่อคุณต้องการทำกิฟฟารีนให้ประสบความสำเร็จ..เราพร้อมจะเป็นกุญแจและนำทางให้คุณ..


ทีมการตลาดออนไลน์..อัพทูยู (Marketing up-toyou Team)




....เราทำงานขาย ไม่ให้เป็นการขาย ดังนั้นเราจึงไม่ได้มาขายสินค้า เราสมัครกิฟฟารีน(giffarine) เพื่อบริโภคสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ตามความจำเป็น แค่นี้ก็สร้างรายได้ ได้แล้ว
....เพื่อสร้างธุรกิจของเราเอง:ธุรกิจของเราในวันนี้ถ่ายโอนมรดกแก่ลูกหลานของเราได้..

Web Master and Head of Consult Team : Nutchanon (Boy)

e-mail : E_Engineering2005@hotmail.com
online conversation :
E_Engineering2005@hotmail.com
Telephon Number : 083-8806419 Nutchanon (Boy)


รับทราบข้อมูลหรือสมัครสมาชิกได้ที่ ... http://www.up-toyou.net/?id=boy


สนใจรับคู่มือสร้างรายได้เสริม+ VCD ได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น Tel. 083-8806419 ณัฐชานนท์

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Halloween

วันฮาโลวีน

เรามักจะคุ้นเคยเรียกกันเป็นภาษาปากว่า วันปล่อยผี ในวันดังกล่าวมักมีการจัดตกแต่งบ้านเรือน ร้านค้า โดยใช้ฟักทองที่คว้านเป็นรูปผี หรือใช้วัสดุอื่น ๆ ประดิษฐ์เป็นตัวผีหรือทำให้มีหน้าตาเป็นผีเพื่อสร้างบรรยากาศให้กลายเป็นงานรื่นเริง วันฮาโลวันมีที่มาอย่างไร และเหตุใดจึงเรียกเช่นนั้นในเรื่องนี้ คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล แห่งราชบัณฑิตยสถาน ได้จัดทำคำอธิบายถึงประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจของ “ฮาโลวีน” ไว้ดังนี้




ในคริสต์ศาสนา นิกายคาทอลิก Halloween เป็นคำภาษาอังกฤษ เพี้ยนมาจากคำ All Hallows Evs ซึ่งแปลว่า วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย โดยวิธีตัดต่อ Hallow + Eve = Halloween คำ Hallow เป็นคำแองโกลแซกซัน แปลว่า ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ ตรงกับภาษาเยอรมันว่า heiligen ในปัจจุบันนิยมใช้คำมาจากภาษาละตินว่า sanctify คำ Hallow ยังมีใช้ในบทสวดอธิษฐานเก่า ๆ เช่น Hallowed be thy Name (ขอพระนามจงเป็นที่สักการะ) คำ Hallow ยังแปลว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ นักบุญ คำ All Hallowmas จึงแปลว่า วันสมโภชนักบุญทั้งหลาย ในปัจจุบันใช้คำว่า All Saints Day คู่กับ Christmas ซึ่งแปลว่า วันสมโภชพระคริสต์หรือคริสต์มาสนั่นเอง วันก่อนวันสมโภชคริสต์มาสมี Chrismas Eve ที่นิยมเรียกว่า คืน (ก่อน) คริสต์มาส วันก่อนวันสมโภชนักบุญทั้งหลายก็มี All Hallowmas Eve ซึ่งต่อมาย่อเป็น Halloween โดยมีงานรื่นเริงและพิธีกรรมทางศาสนาเช่นเดียวกับคืนคริสต์มาส ชาวคาทอลิกพร้อมใจกันเลื่อนพิธีกรรมทางศาสนาไปหลังวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย และเรียกว่า วันวิญญาณในแดนชำระ (All Souls Day) เพื่อให้คู่กับวันสมโภชนักบุญทั้งหลาย (All Saints Day)

การสมโภชนักบุญทั้งหลายเริ่มโดยสันตะปาปาโบนีเฟสที่ 4 (Boniface IV ครองอำนาจ ค.ศ. ๖๐๘–๖๑๕) โดยกำหนดวันที่ ๑๓ พฤษภาคมของทุกปี ตั้งแต่ ค.ศ. ๖๑๓ เป็นต้นมา สาเหตุเนื่องจากเป็นวันเปิดโบสถ์แพนทีอัน (Pantheon) อันเป็นโบสถ์สรรพเทพของชาวโรมันมาแต่เดิม และจักรพรรดิโฟกัส (Phocas) ยกให้เป็นของคริสต์ศาสนา ต่อมา สันตะปาปากรีโกรีที่ ๔ (Gregory IV ครองอำนาจ ค.ศ. ๘๒๗–๘๔๔) เปลี่ยนเป็นวันที่ ๑ พฤศจิกายน ตั้งแต่ ค.ศ. ๘๓๕ เป็นต้นมา
ชาวคาทอลิกขณะนั้นถือว่าวันฮาโลวีนมีความสำคัญคู่เคียงกันกับวันคริสต์มาสและวันอีสเตอร์จึงเริ่มงานตั้งแต่วันก่อนหรือวันสุกดิบ ขณะนั้นเกาะอังกฤษยังรับอำนาจของสันตะปาปาอยู่ ชาวอังกฤษจึงรับนโยบายของสันตะปาปาไปปฏิบัติตาม

ประวัติ
วันที่ 31 ต.ค. เป็นวันที่ชาว เคลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่า เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พ.ย. เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในวันที่ 31 ต.ค. นี่เองที่ชาวเคลต์เชื่อว่า เป็นวันที่มิติคนตาย และคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาจะเที่ยวหาร่างของคนเป็นเพื่อสิงสู่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เดือดร้อนถึงคนเป็น ต้องหาทุกวิถีทางที่จะไม่ให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างตน ชาวเคลต์จึงปิดไฟทุกดวงในบ้าน ให้อากาศหนาวเย็น และไม่เป็นที่พึงปรารถนาของบรรดาผีร้าย นอกจากนี้ยังพยายามแต่งกายให้แปลกประหลาด ปลอมตัวเป็นผีร้าย และส่งเสียงดังอึกทึก เพื่อให้ผีตัวจริงตกใจหนีหายสาบสูญไป

โคมรูปฟักทอง แจ๊ก-โอ'-แลนเทิร์นบางตำนานยังเล่าถึงขนาดว่า มีการเผา "คนที่คิดว่าถูกผีร้ายสิง" เป็นการเชือดไก่ให้ผีกลัวอีกต่างหาก แต่นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนคริสต์กาล ที่ความคิดเรื่องผีสางยังฝังรากลึกในจิตใจมนุษย์ ต่อมาในศตวรรษแรกแห่งคริสต์กาล ชาวโรมันรับประเพณีฮาโลวีนมาจากชาวเคลต์แต่ได้ตัดการเผาร่างคนที่ถูกผีสิงออก เปลี่ยนเป็นการเผาหุ่นแทน กาลเวลาผ่านไป ความเชื่อเรื่องผีจะสิงสูร่างมนุษย์เสื่อมถอยลงตามลำดับ ฮาโลวีนกลายเป็นเพียงพิธีการ การแต่งตัวเป็นผี แม่มด สัตว์ประหลาดตามแต่จะสร้างสรรค์กันไป ประเพณีฮาโลวีนเดินทางมาถึงอเมริกาในทศวรรษที่ 1840 โดยชาวไอริชที่อพยพมายังอเมริกา สำหรับประเพณี ทริกออร์ทรีต (Trick or Treat แปลว่า หลอกหรือเลี้ยง) นั้น เริ่มขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยชาวยุโรป ซึ่งถือว่า วันที่ 2 พ.ย. เป็นวัน 'All Souls' พวกเขาจะเดินร้องขอ 'ขนมสำหรับวิญญาณ' (soul cake) จากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยเชื่อว่า ยิ่งให้ขนมเค้กมากเท่าไร วิญญาณของญาติผู้บริจาคก็ได้รับผลบุญ ทำให้มีโอกาสขึ้นสวรรค์ได้มากเท่านั้น

บทความที่ได้รับความนิยม 3 อันดับแรก

กิฟฟารีน...โอกาสทางธุรกิจ

News Update

Sport News

สัมภาษณ์สาวสวย idolcute คนล่าสุด